นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตร เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ ซึ่งโครงการดังกล่าวได้ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 20 ปี โดยเป็นการปฏิบัติงานเชิงรุกที่ทำให้เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งมีปัญหาด้านการเกษตรได้รับบริการอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านวิชาการและการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการเกษตร รวมถึงเป็นการขยายโอกาส ให้เกษตรกรในพื้นที่ห่างไกล สามารถเข้าถึงการบริการทางการเกษตรและได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างถูกต้องครบถ้วนในคราวเดียวกัน เป็นลักษณะบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างนักวิชาการของหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งด้านพืช สัตว์ ประมง ดิน น้ำ การส่งเสริมการเกษตร และอื่นๆ พร้อมด้วยมีการนำอุปกรณ์และเครื่องมือทางวิชาการด้านต่างๆ มาให้บริการในคลินิกเกษตรนั้นๆ ด้วย ซึ่งปัจจุบันมีผลการให้บริการตั้งแต่ปี 2545-2565 จำนวนมากกว่า 4.4 ล้านรายแล้ว
ด้าน นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า สำหรับการดำเนินงานโครงการฯ ในปีงบประมาณ 2566 กรมส่งเสริมการเกษตรได้กำหนดจัดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ ทั้ง 77 จังหวัด จังหวัดละ 4 ครั้งต่อปี (ไตรมาสละ 1 ครั้ง) รวมเกษตรกรที่จะได้รับบริการ จำนวน 30,800 ราย ประกอบด้วย ไตรมาสที่ 1 จัดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ ระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2565 ไตรมาสที่ 2 จัดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ ระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม 2566 ไตรมาสที่ 3 จัดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ ระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายน 2566 และไตรมาสที่ 4 จัดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ ระหว่างวันที่ 17-31 กรกฎาคม 2566
สำหรับผลการดำเนินการในปี 2566 ไตรมาสที่ 1 (1 ตุลาคม-31 ธันวาคม 2565) มีเกษตรกรลงทะเบียนเข้ารับบริการ จำนวน 14,296 ราย และเข้ารับบริการในคลินิกต่างๆ จำนวน 28,895 ราย และในไตรมาสที่ 2 (1 มกราคม-27 กุมภาพันธ์ 2566) มีเกษตรกรลงทะเบียนเข้ารับบริการ จำนวน 8,217 ราย และเข้ารับบริการในคลินิกต่างๆ จำนวน 8,866 ราย ทั้งนี้ เกษตรกร 1 ราย สามารถเข้ารับบริการได้มากกว่า 1 คลินิก จากการดำเนินงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ ทำให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงข้อมูลทางวิชาการ องค์ความรู้ เทคโนโลยีทางการเกษตรต่างๆ จากนักวิชาการเกษตรได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และทั่วถึง สามารถช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทันเวลา ซึ่งเกษตรกรสามารถนำความรู้ที่ถูกต้องไปปฏิบัติในพื้นที่ของตนเอง ส่งผลให้สามารถผลิตสินค้าเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างรายได้ สร้างอาชีพ และส่งผลให้เกษตรกรมีความมั่นคงในอาชีพและเกิดความยั่งยืนต่อไป
***************************************
สื่อมวลชน
🙏https://www.dailynews.co.th/news/2112632/
🙏https://vnexplorer.net/เกษตรปลื้มให้บริการคลิ-s894855.html