![](https://doaenews.doae.go.th/wp-content/uploads/2024/12/poooooooong-cover-1-1024x512.png)
นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า การท่องเที่ยวเชิงเกษตร (Agrotourism) เป็นการท่องเที่ยวที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้มาเรียนรู้วิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรม และความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ศึกษาหาความรู้และประสบการณ์ในเรื่องการเกษตร รวมถึงได้ชมทัศนียภาพที่สวยงามของชุมชน ทั้งนี้ เกษตรกรและชุมชนจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการตัวเอง และมีทักษะในการบริหารจัดการทรัพยากรในชุมชนให้มีความยั่งยืน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับเกษตรกรและชุมชน กรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้ดำเนินการพัฒนาศักยภาพในการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวให้มีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว ส่งเสริมการตลาดและสื่อสารประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ภาคการเกษตรและภาคการท่องเที่ยวเชื่อมต่อกันได้อย่างลงตัว เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าเกษตรและการบริการท่องเที่ยว เป็นการสร้างงาน สร้างรายได้แก่เกษตรกร ก่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานราก นำไปสู่การพึ่งพาตนเองและต่อยอดไปสู่ระดับธุรกิจการท่องเที่ยว พัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ส่งเสริมให้เกิดการกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวสู่สมาชิกในชุมชนอย่างเท่าเทียมกัน
รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวอีกว่า จากกระแสการท่องเที่ยว “รถไฟลอยน้ำ” ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ สำนักงานเกษตรอำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรีได้เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่น่าสนใจเข้ากับทริปดังกล่าว ได้แก่
1) ไร่คุณรำยอง ของนายรำยอง รื่นสนธ์ มีพื้นที่เพาะปลูก 75 ไร่ ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 4 ตำบลมะนาวหวาน อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี มีความโดดเด่นในด้านการบริหารจัดการพื้นที่ โดยในช่วงฤดูฝน เกษตรกรจะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หลังจากการเก็บเกี่ยวข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รุ่นที่ 1 แล้ว ในช่วงปลายเดือนตุลาคม เกษตรกรจะเตรียมพื้นที่โดยไถกลบต่อซัง ลดการทำลายหน้าดินและความชื้นที่ยังสะสมอยู่ในดิน และจะเริ่มปลูกทานตะวัน เนื่องจากต้นทานตะวันเป็นพืชที่ไม่ต้องอาศัยน้ำมาก ผลผลิตเฉลี่ย 250 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อจำหน่ายให้แหล่งรับซื้อในพื้นที่ เมื่อดอกทานตะวันเริ่มบานในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ถึงกลางเดือนมกราคม จะเปิดให้ประชาชนเข้าชมความสวยงาม ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาวที่ดอกทานตะวันจะบานสะพรั่ง เป็นสีเหลืองไปทั่วทั้งไร่ นอกจากสามารถสร้างรายได้จากปลูกเพื่อขายเมล็ดทานตะวันแล้ว ยังสามารถสร้างได้จากการท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้อีกช่องทางหนึ่ง รวมถึงการสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนจากการขายสินค้าท้องถิ่น ทั้งนี้ ไร่คุณรำยอง มีรายได้จากการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ต้นทุนการผลิตไร่ละ 3,230 บาท รายได้เฉลี่ยไร่ละ 8,000 บาท กำไรเฉลี่ยไร่ละ 4,770 บาท ในขณะที่การปลูกทานตะวัน มีต้นทุนการผลิตไร่ละ 1,820 บาท รายได้เฉลี่ยไร่ละ 3,000 บาท กำไรเฉลี่ยไร่ละ 1,180 บาท และยังมีรายได้จากการท่องเที่ยวอีกปีละประมาณ 100,000 บาทด้วย
![](https://doaenews.doae.go.th/wp-content/uploads/2024/12/ท่องเที่ยว-กสก-4-1024x576.jpg)
![](https://doaenews.doae.go.th/wp-content/uploads/2024/12/ท่องเที่ยว-กสก-5-1024x576.jpg)
![](https://doaenews.doae.go.th/wp-content/uploads/2024/12/ท่องเที่ยว-กสก-6.jpg)
![](https://doaenews.doae.go.th/wp-content/uploads/2024/12/ท่องเที่ยว-กสก-7.jpg)
2) ไร่ทรัพย์ประยูร ของนายนราพล บุญขยาย ตั้งอยู่ที่หมู่ 6 ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี มีพื้นที่เพาะปลูก 16 ไร่ จัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนไร่ทรัพย์ประยูร เป็นแหล่งเพาะเห็ดนางฟ้าภูฏาน จำหน่ายพันธุ์ไม้ประดับนานาชนิด และเป็นแหล่งผลิตเฟิร์นที่ใหญ่เป็นอันดับต้นของประเทศ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเยี่ยมชมสวนเฟิร์นและถ่ายรูปกับภูมิทัศน์ที่มีการออกแบบการจัดสวนให้มีความเป็นธรรมชาติและร่มรื่นด้วยไม้นานาพันธุ์ ทั้งยังสามารถให้อาหารแก่สัตว์เลี้ยง เช่น กระต่าย ปลาคราฟ ม้า และนกแก้วได้ หากนักท่องเที่ยวมีความสนใจเกี่ยวกับพันธุ์ไม้ในสวนสามารถติดต่อสอบถามและรับชมการสาธิตเกี่ยวกับการเพาะปลูกและการขยายพันธุ์พืชนั้น ๆ ได้ ปัจจุบันทางไร่ทรัพย์ประยูรได้เพิ่มการปลูกผักกูดใต้สวนเฟิร์น เพื่อเป็นการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าภายในสวนเฟิร์น จากการรดกระถางเฟิร์นด้านบน เพื่อนำมาประกอบอาหารภายในร้านอาหาร นอกจากนี้ทางไร่ทรัพย์ประยูรยังมีร้านอาหารและเครื่องดื่ม และร้านกาแฟไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย ทั้งนี้ ไร่ทรัพย์ประยูรมีรายได้จากพืชที่ปลูกตลอดปี ประกอบด้วย เห็ดนางฟ้าภูฏาน พื้นที่ปลูก 320 ตารางวา จำนวน 100,000 ก้อน ผลผลิตเฉลี่ยวันละ 100 กิโลกรัม มีต้นทุนการผลิตปีละ 70,000 บาท รายได้เฉลี่ยเดือนละ 240,000 บาท ผักกูด พื้นที่ปลูก 3 ไร่ ผลผลิตวันละ 300 กิโลกรัม มีต้นทุนการผลิตปีละ 51,000 บาท รายได้เฉลี่ยเดือนละ 900,000 บาท และเฟิร์นสไบนาง พื้นที่ปลูก 16 ไร่ ผลผลิตปีละ 300 ต้น ต้นทุนปีละ 350,000 บาท รายได้ปีละ 500,000 – 600,000 บาท
![](https://doaenews.doae.go.th/wp-content/uploads/2024/12/ท่องเที่ยว-กสก-1.jpg)
![](https://doaenews.doae.go.th/wp-content/uploads/2024/12/ท่องเที่ยว-กสก-2-1024x576.jpg)
ด้วยจุดเด่นของอำเภอพัฒนานิคมที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพมหานคร จึงจัดเส้นทางท่องเที่ยว (Route Trip) แบบ One day trip โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายน – มกราคม เป็นช่วง Unseen ของเส้นทางรถไฟลอยน้ำ โดยขบวนรถไฟจะวิ่งบนสันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และวิ่งผ่านอ่างเก็บน้ำทำให้ดูเหมือนรถไฟวิ่งอยู่บนผิวน้ำ ทำให้ได้บรรยากาศและดื่มด่ำกับวิวของเขื่อนกับขบวน Royal Blossom นอกจากนั้นในเข้าสู่ฤดูหนาวยังมีไฮไลต์สำคัญที่พลาดไม่ได้ คือ ไร่ทานตะวันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา และไร่ไม้ประดับที่มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม ร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ อยู่ใกล้กับเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ สามารถมองเห็นทัศนียภาพของน้ำในเขื่อนได้ และเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ
![](https://doaenews.doae.go.th/wp-content/uploads/2024/12/ท่องเที่ยว-กสก-1-1024x512.png)