ผลไม้และกล้วยไม้ไทยได้รับความสนใจล้นหลามจากชาวจีน ทุเรียนไทยยังครองใจผู้บริโภคภาคตะวันออกจีน หลังนำไปโชว์ในงานพืชสวนโลก เมืองหยางโจว

            นางกุลฤดี พัฒนะอิ่ม รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และฝ่ายการเกษตร ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ ร่วมกับสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย เป็นเจ้าภาพจัดแสดงสินค้าเกษตรไทย ณ สวนไทย ในงานมหกรรมพืชสวนโลก 2021 ณ เมืองหยางโจว มณฑลเจียงซู สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม – 4 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา เพื่อประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการส่งออกสินค้าเกษตรไทย ให้ผู้เข้าชมงานทั้งชาวจีนและชาวต่างประเทศได้เห็นถึงศักยภาพและความหลากหลายของสินค้าไทย ส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานของสินค้าไทย ซึ่งจะนำไปสู่การขยายโอกาสทางการค้า และการตลาดสินค้าเกษตรไทยในประเทศจีนต่อไป

            สำหรับการตอบรับของผู้บริโภคชาวจีนที่ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับสินค้าเกษตรที่นำไปจัดแสดง พบว่า ผลไม้ไทยที่ชาวจีนรู้จัก 3 อันดับแรกคือ ทุเรียน (93%) มังคุด (71%) มะม่วง (62%) ผลไม้ไทยที่ชาวจีนชื่นชอบ 3 อันดับแรก คือ ทุเรียน (81%) มังคุด (60%) ลำไย (27%) รวมทั้งจากการสำรวจตลาดผลไม้ไทยในเมืองหยางโจว พบว่า ในร้านผลไม้และซุปเปอร์มาร์เกตท้องถิ่นบางแห่งมีผลไม้ไทยจำหน่ายด้วย โดยทุเรียนราคาขายอยู่ที่ 23 – 26 หยวนต่อ 500 กรัม ซึ่งทุเรียนที่จำหน่ายในตลาดอยู่ในระดับสุกมากจนเปลือกปริแตก รวมทั้งยังพบว่ามีมังคุดและมะพร้าวไทยจำหน่ายอีกด้วย

            รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวอีกว่า การร่วมจัดแสดงสินค้าเกษตรไทยในงานมหกรรมพืชสวนโลก 2021 เป็นการขยายโอกาสให้ชาวต่างชาติรู้จักสินค้าเกษตรไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการจัดแสดงสินค้าเกษตรไทยในครั้งนี้ มีการนำผลไม้จากประเทศไทยไปจัดแสดง จำนวน 8 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน มังคุด ลำไย เงาะ น้อยหน่า ชมพู่ มะม่วง และมะพร้าวเผา พร้อมจัดกิจกรรมแจกทุเรียนหมอนทอง ลำไย และเงาะให้ชิมฟรี ซึ่งชาวจีนส่วนใหญ่ชื่นชอบ รู้จัก และมีความประทับใจในรสชาติของทุเรียนไทยเป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่จะคุ้นเคยและชอบทุเรียนที่แก่จนเนื้อเละ และส่งกลิ่นแรง ซึ่งเมื่อได้ลองทานทุเรียนที่เนื้อกรอบนอกนุ่มใน แบบที่คนไทยนิยมรับประทาน กลับรู้สึกว่าทุเรียนยังไม่สุกได้ที่ นอกจากนี้ยังมีชาวจีนหลายคนอยากทดลองชิมเงาะ เนื่องจากไม่เคยเห็นและยังไม่มีจำหน่ายในตลาดจีน

            ภายในงานยังมีการจัดนิทรรศการในรูปแบบสามมิติ โดยมีบอลลูนยักษ์ผลไม้เป็นจุดดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยี่ยมชม ทั้งบอลลูนทุเรียนและมังคุดขนาดสูง 3 เมตร และบอลลูนผลไม้ขนาดกลางอีก 5 ชนิด ได้แก่ มะพร้าว มะม่วง สับปะรด ชมพู่ และส้มโอ รวมทั้งบอร์ดรูปผลไม้ไทย 9 บอร์ด และบอร์ดนิทรรศการแสดงข้อมูลให้ความรู้เกี่ยวกับผลไม้ไทย 22 ชนิด ที่จีนอนุญาตให้นำเข้าจากประเทศไทย อีกทั้งยังมีการตกแต่งซุ้มกล้วยไม้ไทยขนาดใหญ่ โดยใช้กล้วยไม้นำเข้าจากประเทศไทยหลากหลายสี ซึ่งเป็นที่ประทับใจและได้รับความสนใจจากชาวจีนที่มาเที่ยวในงานมหกรรมพืชสวน 2021 เป็นอย่างมาก

            “การเข้าร่วมจัดกิจกรรมในครั้งนี้ นอกจากเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรไทยให้เป็นที่รู้จักของชาวจีนและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ทางภาคตะวันออกของประเทศจีน ยังทำให้กรมส่งเสริมการเกษตรได้รับทราบถึงแนวโน้มของตลาดผลไม้ไทยในเมืองรอง ที่ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และพบว่าผลไม้ไทยมีแนวโน้มได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะทุเรียน ซึ่งคนในพื้นที่รู้จักและชื่นชอบทุเรียนของไทยเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดผลไม้ในประเทศจีนยังมีการแข่งขันที่รุนแรง ประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวจีนรุ่นใหม่ที่ได้ปรับเปลี่ยนไปซื้อสินค้าจากแพลตฟอร์มออนไลน์ เนื่องจากสะดวกสบาย มีบริการส่งตรงถึงบ้าน และบ่อยครั้งก็มีการจัดโปรโมชั่นลดราคา ในขณะที่ชาวจีนในเมืองรองบางส่วนยังมีพฤติกรรมในการออกไปจับจ่ายซื้อของที่ร้านค้าอยู่ เนื่องจากสามารถได้เห็นของจริงและสามารถเลือกสินค้าได้ด้วยตนเอง แต่ประเด็นที่ต้องนำไปพิจารณาหาแนวทางแก้ไข คือ ราคาสินค้าซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้บริโภคท้องถิ่นมักคำนึงถึงเวลาตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า ซึ่งผลไม้ไทยมักจะมีราคาสูงกว่าของคู่แข่ง ซึ่งอาจจะทำให้แข่งขันในตลาดท้องถิ่นของจีนได้ยากนั่นเอง” นางกุลฤดี กล่าวทิ้งท้าย