กรมส่งเสริมการเกษตร เผยผลความสำเร็จโครงการพัฒนาธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชน (One Stop Service) เพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยให้แก่เกษตรกรกว่า 244 ล้านบาท

นางอัญชลี สุวจิตตานนท์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวถึงผลสำเร็จของโครงการพัฒนาธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชน (One Stop Service) ในงานแถลงข่าว  “OSS เคสดี ต้องมีโชว์” ว่า ผลการดำเนินการของศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน (ศดปช.) ที่ได้เข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรในการลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเคมีในการทำการเกษตรสำหรับการปลูกพืชเศรษฐกิจสำคัญ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยเกษตรกรจำนวน 108,036 ราย จาก 394 ศูนย์ ใน 63 จังหวัด พื้นที่ 1.3 ล้านไร่ ได้รับประโยชน์ ปริมาณการใช้ปุ๋ยลดลง 59,047.37 ตัน คิดเป็นร้อยละ 49 สามารถลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเคมีเฉลี่ยในพืชเศรษฐกิจต่าง ๆ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 36.91 คิดเป็นมูลค่ามากถึง 244 ล้านบาท และเพิ่มผลผลิตได้จริง โดยผลผลิตของเกษตรกรที่ใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 10 ช่วยสร้างรายได้เพิ่มขึ้น และเกิดการจ้างงานในธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชน ประมาณ 2,600 คน ทั้งนี้ ในด้านการให้บริการเชิงธุรกิจ ศดปช. ทั้ง 394 แห่ง ได้จดทะเบียนผู้ขายปุ๋ย เพื่อให้สามารถจำหน่ายปุ๋ยให้กับเกษตรกรทั่วไปได้ ได้ให้บริการตรวจวิเคราะห์ดิน มีเกษตรกรใช้บริการ จำนวน 114,041 ราย มีการจำหน่ายแม่ปุ๋ย 82,109 กระสอบ และมีการให้บริการผสมปุ๋ยรวม 4,099,909 กิโลกรัม

รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการพัฒนาธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชน (One Stop Service) จะมีส่วนสำคัญในการช่วยพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของสมาชิกเครือข่าย รวมถึงเกษตรกรทั่วไปให้สามารถลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเคมีและได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น ตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในเรื่องการลดต้นทุนการผลิต ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย รวมถึงการส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ลดการใช้ปุ๋ยเคมี รวมทั้งให้ทุกหน่วยงานเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจ แนวทางการใช้ปุ๋ยที่เหมาะสม มีประสิทธิภาพ “4 ถูก ถูกสูตร ถูกอัตรา ถูกเวลา ถูกวิธี” ให้กับเกษตรกรอย่างทั่วถึง  

นอกจากนี้ ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการเกษตรได้ดำเนินงานโครงการพัฒนาธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชน (One Stop Service) เพื่อให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพในการดำเนินโครงการใน 3 ด้าน ได้แก่

            1) จัดอบรม ดำเนินการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาเทคนิคและการบริหารธุรกิจ พบว่ามีเกษตรกรสนใจเข้าร่วมกว่า 12,325 ราย จากเป้าหมาย 11,820 ราย คิดเป็นร้อยละ 104.27 และจัดเวทีเชื่อมโยงเครือข่าย ศดปช. ศพก. และ แปลงใหญ่ มีเกษตรกรสนใจเข้าร่วมกว่า 8,379 ราย จากเป้าหมาย 7,880 ราย คิดเป็นร้อยละ 106.32

            2) สนับสนุนวัสดุการเกษตรและครุภัณฑ์ แม่ปุ๋ย 3 สูตร และเครื่องผสมปุ๋ยเคมี สนับสนุนชุดตรวจวิเคราะห์ดิน หรือ Soil test kit จำนวน 3,940 ชุด ในการให้บริการตรวจวิเคราะห์ดินแก่เกษตรกรสมาชิก ศดปช. แปลงใหญ่ และเกษตรกรในชุมชน โดยให้บริการตรวจวิเคราะห์ดินและให้คำแนะนำการจัดการดินและปุ๋ยแล้ว 114,041 ราย คิดเป็นร้อยละ 106.41 เมื่อเทียบกับเป้าหมาย สนับสนุนแม่ปุ๋ย 3 สูตร ได้แก่ สูตร 46-0-0, สูตร 18-46-0 และ สูตร 0-0-60 รวมจำนวน 47,280 กระสอบ ซึ่งเกษตรกรมีการจำหน่ายแม่ปุ๋ยแล้ว 82,109 กระสอบ คิดเป็นร้อยละ 173.67 เมื่อเทียบกับจำนวนปุ๋ยที่สนับสนุน ซึ่งมีการต่อยอดจากที่ภาครัฐสนับสนุน และสนับสนุนเครื่องผสมปุ๋ยเคมี จำนวน 394 เครื่อง ซึ่งให้บริการผสมปุ๋ยแล้ว 4,099,909 กิโลกรัม คิดเป็นร้อยละ 173.43 เมื่อเทียบกับปริมาณปุ๋ยที่สนับสนุน

            3) พัฒนา แอปพลิเคชัน “รู้ดิน รู้ปุ๋ย” เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยอำนวยความสะดวกเกษตรกรให้ได้รับคำแนะนำการจัดการดินและการใช้ปุ๋ยอย่างรวดเร็ว และยังสามารถคำนวณต้นทุนและผลผลิตเปรียบเทียบกับการใช้ปุ๋ยตามวิธีการเดิมของเกษตรกรได้ และสามารถสั่งจองปุ๋ยผ่านศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชนได้อีกด้วย รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรสามารถนำข้อมูลผลการวิเคราะห์ดินมาใช้ประกอบการวางแผนการส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่ให้มีข้อมูลทางวิชาการดินปุ๋ยที่ถูกต้อง แม่นยำ ทำให้เจ้าหน้าที่เป็น Smart Extensionist นำความรู้ที่ได้ไปแนะนำส่งเสริมให้สมาชิก ศดปช. หรือเกษตรกร เป็น Smart farmer มีความรู้ในจัดการดินปุ๋ยที่ถูกต้อง และสนับสนุนให้ ศดปช. ทำธุรกิจ บริการดินปุ๋ยในชุมชนได้ด้วยตัวเองจนเกิดความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน และจากข้อมูล ณ วันที่ 6 เมษายน 2565 มีผู้สนใจใช้บริการมากกว่า 32,974 คน

“โครงการพัฒนาธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชน หรือ One Stop Service จะช่วยต่อยอดให้ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน หรือ ศดปช. สามารถเป็นหน่วยบริการดินและปุ๋ยของชุมชนได้อย่างแท้จริง ทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้และให้บริการด้านดินและปุ๋ยของชุมชน เพื่อการขยายผลการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการวิเคราะห์ดินและใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินและความต้องการของพืช ซึ่งนำไปสู่การเกษตรแม่นยำ เพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิตโดยเฉพาะต้นทุนอันเนื่องจากการใช้ปุ๋ยเคมี ลดรายจ่าย สร้างรายได้ให้เกษตรกร และทำให้ ศดปช. ที่กรมส่งเสริมการเกษตรจัดตั้งขึ้น เป็นหน่วยบริการด้านดินและปุ๋ยของชุมชนที่มีเข้มแข็ง สามารถทำธุรกิจ โดยมีรายได้หมุนเวียนจากการตรวจวิเคราะห์ดิน จำหน่ายปุ๋ย และบริการผสมปุ๋ย รวมทั้งสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นการลดการพึ่งพาการอุดหนุนจากภาครัฐ” รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าว