กรมส่งเสริมการเกษตรเสริมหนุน เครือข่าย ศพก. และเกษตรแปลงใหญ่ ระดับประเทศ เจาะลึกความสำเร็จ โครงการยกระดับแปลงใหญ่ฯ กาแฟ GI แบรนด์เทพเสด็จ คอฟฟี่

นายนวนิตย์  พลเคน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร

กรมส่งเสริมการเกษตร นำที่ปรึกษาและคณะกรรมการเครือข่ายศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) และแปลงใหญ่ ระดับประเทศ จำนวน 20 คน เข้าเยี่ยมชมการดำเนินงาน และความสำเร็จ ภายใต้โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด ณ แปลงใหญ่กาแฟเทพเสด็จ ตำบลเทพเสด็จ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่

          นายนวนิตย์  พลเคน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า การศึกษาดูงานดังกล่าว เป็นหนึ่งในกิจกรรมการประชุมเชื่อมโยงการดำเนินงานของคณะกรรมการเครือข่ายศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) และแปลงใหญ่ ระดับประเทศ ครั้งที่ 2/2565 ที่จัดขึ้น ณ สำนักงานส่งเสริมและพัฒนากรเกษตรที่ 6 จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้รับเกียรติจากคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรได้กำหนดจัดการประชุมคณะกรรมการเครือข่ายฯ ระดับประเทศ ปีละ 4 ครั้ง ภายใต้วัตถุประสงค์ เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงการดำเนินงานของทั้งสองเครือข่ายอย่างเป็นรูปธรรม สามารถใช้ ศพก. เป็นฐานเรียนรู้และเป็นแหล่งองค์ความรู้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรแปลงใหญ่ ตลอดจนเป็นที่บ่มเพาะเกษตรกรรุ่นใหม่ (Young Smart Farmer) ที่จะเข้าเป็นสมาชิกแปลงใหญ่ได้อย่างแท้จริง สำหรับแปลงใหญ่กาแฟเทพเสด็จดำเนินการและบริหารงานในรูปแบบวิสาหกิจชุมชนกาแฟสดแม่ตอนซึ่งนับเป็นศูนย์เครือข่ายหนึ่งของ ศพก. หลัก อำเภอดอยสะเก็ด ที่บูรณาการและเชื่อมโยงการทำงานร่วมกันในระดับพื้นที่ทั้งด้านองค์ความรู้ การผลิต และการตลาด  

  

          ด้าน นายสุวรรณ  เทโวขัติ ประธานแปลงใหญ่กาแฟเทพเสด็จ กล่าวว่า แปลงใหญ่กาแฟเทพเสด็จ ได้สมัคร     เข้าร่วมโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาดกับกรมส่งเสริมการเกษตร ในปี 2564 และได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ อาทิ เครื่อง Color Sorter 1 เครื่อง เครื่องสีกาแฟกะลา เครื่องใหญ่ 1 เครื่อง และเครื่องเล็ก 1 เครื่อง เพื่อผลิตกาแฟคุณภาพจำหน่าย ภายใต้แบรนด์เทพเสด็จ หรือ Thepsadej Coffee

นายสุวรรณ  เทโวขัติ ประธานแปลงใหญ่กาแฟเทพเสด็จ
          นายสุวรรณ กล่าวอีกว่า กาแฟเทพเสด็จ เป็นสายพันธุ์อาราบิก้า ที่ปลูกบนภูเขาสูง 1,100 – 1,500 เมตร จากระดับน้ำทะเล ซึ่งใช้ระบบการปลูกร่วมกับป่าไม้ ทำให้เกิดข้อดี คือ เมล็ดกาแฟจะเจริญเติบโตช้า ค่อยๆ เกิดการสะสมสารอาหารอย่างเต็มที่ และเมื่อผ่านวิธีการแปรรูปอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอน ทำให้กาแฟเทพเสด็จมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีรสชาติหอมหวาน มีกลิ่นหอมของดอกไม้ป่า และปัจจุบันกาแฟเทพเสด็จ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications : GI) อีกด้วย

          “การเข้าร่วมโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด ได้สร้างประโยชน์อย่างมาก เพราะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรมที่เหมาะสม เกิดการยกระดับการผลิตสินค้าคุณภาพ สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เกิดอำนาจต่อรองด้านการตลาด สร้างรายได้ให้อย่างยั่งยืน” นายสุวรรณ กล่าว