นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรได้มีการจัดทำคู่มือการจัดชั้นคุณภาพและถอดบทเรียนแปลงใหญ่ ประจำปีงบประมาณ 2565 ขึ้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานจัดชั้นคุณภาพ โดยให้กลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ได้มีส่วนร่วมในการประเมินการจัดชั้นคุณภาพและหาแนวทางการพัฒนาปรับปรุงการดำเนินงานของกลุ่ม เพื่อประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการบริหารจัดการกลุ่ม และการถอดบทเรียนแปลงใหญ่ที่มีการบริหารจัดการ การวางแผนการดำเนินงาน และการพัฒนาในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเป็นตัวอย่างให้กลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่อื่น ๆ ได้ศึกษา และนำมาปรับใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์ของกลุ่มเพื่อให้เกิดการพัฒนา โดยมีเป้าหมายในการจัดชั้นคุณภาพเกษตรกรแปลงใหญ่ ปี 2562, 2563 และปี 2564 และถอดบทเรียนแปลงใหญ่ ปี 2562 ให้หน่วยงานเจ้าของสินค้าในระดับส่วนกลางสรุปผลการจัดชั้นแปลงใหญ่ และรวบรวมผลการ ถอดบทเรียนแปลงใหญ่ในสินค้าของตน ส่งให้กรมส่งเสริมการเกษตร ภายในวันที่ 15 กันยายน 2565 เพื่อให้กรมส่งเสริมการเกษตรรวบรวมและจัดทำรายงานผลการจัดชั้นคุณภาพและถอดบทเรียนแปลงใหญ่ ประจำปีงบประมาณ 2565 ต่อไป
สำหรับในปี 2564 ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการเกษตรได้ดำเนินการจัดชั้นคุณภาพแปลงใหญ่ ตามประเด็นการประเมินและให้คะแนน แบ่งเป็น 5 ส่วน ได้แก่ การรวมกลุ่มเกษตรกร การบริหารจัดการ ผลการดำเนินงาน การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้และความยั่งยืนของกลุ่ม พบว่ามีการดำเนินงานจัดชั้นคุณภาพแปลงใหญ่ จำนวน 4,578 แปลง แบ่งเป็น แปลงปี 2561 จำนวน 1,638 แปลง มีผลการประเมินแปลงเกรด A จำนวน 896 แปลง แปลงปี 2562 จำนวน 1,578 แปลง มีผลการประเมินแปลงเกรด A จำนวน 824 แปลง และแปลงปี 2563 จำนวน 1,362 แปลง มีผลการประเมินแปลงเกรด A จำนวน 619 แปลง รวมมีแปลงใหญ่ที่มีผลการประเมินแปลงเกรด A จำนวนทั้งสิ้น 2,339 แปลง
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวอีกว่า การดำเนินงานเกษตรแบบแปลงใหญ่ที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เกษตรกร ช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรได้จริง สินค้าเกษตรแปลงใหญ่ส่วนมากมีการขายตามคุณภาพ แบ่งเป็นเกรด A B และ C ชัดเจน โดยแต่ละเกรดก็มีราคาที่แตกต่างกัน จึงเป็นการสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรอยากมารวมกันเป็นแปลงใหญ่มากขึ้น ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรยืนยันว่าการดำเนินงานเกษตรแปลงใหญ่ที่ผ่านมาเห็นผลเป็นรูปธรรม เกษตรกรมีความเข้าใจตลาด สามารถผลิตสินค้าได้ตรงตามความต้องการ นอกจากนี้เกษตรกรยังสามารถใช้ข้อมูลเพื่อวิเคราะห์และวางแผนการผลิตร่วมกัน เป็นไปตามหลักการตลาดนำการผลิต สร้างความเข็มแข็งให้เกิดขึ้นกับเกษตรกรและสินค้าเกษตรแปลงใหญ่อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรได้ดำเนินโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่มาตั้งแต่ ปี 2559 ตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งให้ความสำคัญในเรื่องการลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มโอกาส ในการแข่งขัน โดยการส่งเสริมการรวมแปลงเป็นแปลงใหญ่ มีเป้าหมายการพัฒนา 5 ด้าน ได้แก่ การลดต้นทุนการผลิต การเพิ่มผลผลิต การพัฒนาคุณภาพการผลิต การตลาด และการบริหารจัดการ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเกษตรกรแปลงใหญ่ให้ร่วมกันบริหารจัดการการผลิตและการตลาดสินค้าเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ มุ่งพัฒนาเกษตรกรให้เป็นผู้ประกอบการ เสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่าย มีการบูรณาการกับทุกภาคส่วนเพื่อร่วมกันพัฒนาเกษตรกรแปลงใหญ่ และเชื่อมโยงการผลิตและการตลาด ดังนั้น เกษตรกรกลุ่มแปลงใหญ่จึงควรมีการประเมินศักยภาพ วิเคราะห์ และหาแนวทางในการพัฒนาตนเอง เพื่อสามารถกำหนดทิศทางในการดำเนินงานของกลุ่มได้
******************************
พีรมณฑ์, กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ : ข่าว
สำนักส่งเสริมและจัดการสินค้าเกษตร : ข้อมูล เมษายน 2565