นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ กรมส่งเสริมการเกษตร และศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือ เนคเทค ได้จัดให้มีการประชุม Executive meeting ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Cisco WebEx) ขึ้น โดยผู้เข้าร่วมประชุมฝ่ายเนคเทค ได้แก่ ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการเนคเทค และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ส่วนของกรมส่งเสริมการเกษตรประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จากกอง/สำนักส่วนกลางของกรมส่งเสริมการเกษตร รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อเชิญกรมส่งเสริมการเกษตร ร่วมเป็นพันธมิตรกับเนคเทค ในการจัดงานประชุมวิชาการและนิทรรศการเนคเทค ประจำปี 2565 หรือ NECTEC ACE 2022 พร้อมทั้งการหารือเพื่อสร้างความร่วมมือพัฒนานวัตกรรมการเกษตร ที่จะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรทั่วประเทศ
“ ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตร ได้รับทราบ และเห็นชอบในหลักการ และรูปแบบการจัดงาน NECTEC-ACE 2022 พร้อมทั้งยินดีเข้าร่วมเป็นพันธมิตรในการจัดงานฯ ดังกล่าว โดยกรมส่งเสริมการเกษตร จะมุ่งเน้นประเด็นความร่วมมือของกรมส่งเสริมการเกษตรและเนคเทคในการทำงานด้านวิชาการและผลงานวิจัย การดำเนินงานร่วมกันระหว่าง 2 หน่วยงานที่ผ่านมา ได้แก่ เทคโนโลยี HandySense FAARMIS และอื่น ๆ สำหรับการนำเสนอการดำเนินงานของกรมส่งเสริมเกษตรด้านต่างๆ ในส่วนของความร่วมมือการพัฒนานวัตกรรมการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตรเห็นชอบตามความร่วมมือการพัฒนานวัตกรรมการเกษตรของเนคเทค และพร้อมให้ความร่วมมือพัฒนาและดำเนินการต่อยอดการนำใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีต่อไป” นายเข้มแข็ง กล่าว
ด้าน ดร. พรพรหม อธีตนันท์ รองผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์วิจัยและถ่ายทอดเทคโนโลยี เนคเทค กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงาน NECTEC ACE 202) มีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาทางด้านอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ในสาขาการเกษตร การส่งเสริมและผลักดันการนำผลงานวิจัยไปสู่การใช้งานได้จริงสำหรับภาครัฐภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม ภาคการศึกษานำไปสู่การสร้างผลกระทบเชิงเศรษฐกิจในระดับประเทศได้อย่างยั่งยืน และเพื่อสร้างเวทีสำหรับการนำเสนอ การอภิปราย และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างภาครัฐ ภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม ภาคการศึกษา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยกำหนดการจัดงานในระหว่างวันที่ 8 – 9 กันยายน 2565 ภายใต้แนวคิด “Digital Technology for Sustainable Agriculture ฐานรากเทคโนโลยีดิจิทัล ขับเคลื่อนเกษตรไทยสู่ความยั่งยืน”