นางอัญชลี สุวจิตตานนท์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ลงพื้นที่อำเภอพระยืน จังหวัดขอนแก่น เพื่อติดตามงานส่งเสริมและถ่ายทอดความรู้ เทคโนโลยีด้านการเกษตรไปสู่เกษตรกร ซึ่งเป็นภารกิจหลักของกรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรสามารถนำไปปรับใช้ในการพัฒนาการผลิตของตนเองให้มีประสิทธิภาพ สามารถลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต เพิ่มรายได้ และพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน แต่ด้วยสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงทั้งสภาพแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม และความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศ
รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรมีนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินการปรับวิธีการทำงานให้สอดรับกับวิถี New Normal โดยมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี หรือ Digital DOAE และสนองนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตรที่จะขับเคลื่อนภาคเกษตรเพื่อเตรียมรับกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตตามวิถี Next Normal รวมทั้งยังสามารถให้บริการเกษตรกรได้อย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง สำหรับพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 4 จังหวัดขอนแก่น ได้พัฒนาระบบส่งเสริมการเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Isan e – Extension ขึ้น เป็นระบบการส่งเสริมการเกษตรที่ปรับปรุงจากระบบส่งเสริมการเกษตร Training and Visit System (T&V System) ที่กรมส่งเสริมการเกษตรใช้เป็นแนวทางในการส่งเสริมการเกษตรมาตั้งแต่ปี พ.ศ 2520 จนถึงปัจจุบัน ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ คือ การพัฒนาเจ้าหน้าที่ให้มีความพร้อมในการปฏิบัติงาน (Training) การเยี่ยมเยียนและการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่เกษตรกร (Visiting) การสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ (Supporting) การนิเทศงาน (Monitoring) และการบริหารจัดการข้อมูลให้มีความถูกต้องแม่นยำและมีความเป็นปัจจุบัน (Data Management) เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนพัฒนาเกษตรกรได้ตรงกับความต้องการและสอดคล้องกับปัญหาของเกษตรกรในพื้นที่ ด้วยการพัฒนาต่อยอดนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้ในปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถปฏิบัติงานได้ภายใต้สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทั้งในปัจจุบันและในอนาคตข้างหน้า
“การนำระบบระบบส่งเสริมการเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Isan e – Extension เข้ามาบูรณาการในการส่งเสริมเกษตรกร ช่วยให้เกิดผลดีกับเกษตรกรในหลายมิติ ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปสมุนไพรบ้านดงกลาง อำเภอพระยืน จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเห็นผลชัดเจนในเรื่องของ e-Trading ช่วยเพิ่มช่องทางการตลาด ทำให้ลูกค้าสามารถเห็นสินค้าบนตลาดออนไลน์ได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ยอดขายทะลุแสนบาทต่อเดือน และในอนาคตอันใกล้เกษตรกรเตรียมพร้อมที่จะขยายผลไปสู่สินค้าชนิดอื่น ๆ โดยเน้นสินค้าที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค” รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าว
ด้าน นายดำรงฤทธิ์ หลอดคำ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 4 จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การขับเคลื่อนระบบส่งเสริมการเกษตร Isan e – Extension เป็นการดำเนินการในรูปคณะทำงาน ภายใต้การดูแลของผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 4 จังหวัดขอนแก่น เกษตรจังหวัด และผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เชื่อมโยงเครือข่ายสู่ 20 จังหวัด และ 27 อำเภอนำร่อง นอกจากนี้ยังมีการดำเนินการนำร่องเต็มรูปแบบใน 3 จังหวัด คือ จังหวัดบึงกาฬ สกลนคร และจังหวัดอุบลราชธานี โดยมีผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ประกอบด้วย ด้านพัฒนาเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร ได้ดำเนินการเสริมสร้างความรู้และพัฒนาทักษะแบบออนไลน์ให้กับเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรในหลักสูตรการจัดทำแผนพัฒนาการเกษตรประจำตำบล การจำหน่ายสินค้าออนไลน์ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ขับเคลื่อนภายใต้ MOU ระหว่างกรมส่งเสริมการเกษตรกับมหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร และการพัฒนาความสามารถในการใช้อุปกรณ์และโปรแกรมประยุกต์ในการจัดประชุมออนไลน์ ส่วนในด้านการสนับสนุน ได้ดำเนินการจัดทำ Website เพื่อประชาสัมพันธ์ และ Web board เพื่อใช้ในการสื่อสารการขับเคลื่อนงานระบบส่งเสริมการเกษตร Isan e – Extension การจัดทำระบบการทำงานของอาสาสมัครเกษตรผ่าน Website และการพัฒนาระบบจัดเก็บแผนพัฒนาการเกษตรประจำตำบลในพื้นที่อำเภอนำร่อง เพื่อสะดวกในการจัดเก็บ และสืบค้นเมื่อจะนำไปใช้งาน และสะดวกในการมอบหมายงาน
ในส่วนของแผนการดำเนินงานในระยะต่อไป สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 4 จังหวัดขอนแก่น จะดำเนินการ 3 ส่วน คือ 1) การทดลองใช้รูปแบบการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการส่งเสริมการเกษตรแบบเต็มรูปแบบ และเก็บข้อมูลเพื่อศึกษารูปแบบการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่เหมาะสมในการส่งเสริมการเกษตร พื้นที่จังหวัดบึงกาฬ สกลนครและอุบลราชธานี 2) การพัฒนาเจ้าหน้าที่ในพื้นที่นำร่องภายใต้ MOU กรมส่งเสริมการเกษตรกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ในหลักสูตร Non – Degree และ 3) การอบรมการนำนวัตกรรมโซล่าเซลและเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการจัดการน้ำและปุ๋ยแบบออนไลน์ ซึ่งกลุ่มบุคคลเป้าหมายเป็นเกษตรกรต้นแบบในอำเภอนำร่อง Isan e – Extension
สำหรับระบบส่งเสริมการเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Isan e – Extension) เป็นระบบที่พัฒนาและปรับปรุงเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนงานส่งเสริมการเกษตรเฉพาะในพื้นที่ 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และบริบทของพื้นที่ โดยมี 9 องค์ประกอบ คือ 8 e และ 1 W ได้แก่ 1) e – Training ปรับรูปแบบการอบรมเพื่อพัฒนาเจ้าหน้าที่จากการอบรมแบบเผชิญหน้าเป็นอบรมออนไลน์ 2) e-learning ส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่เห็นความสำคัญในการพัฒนาตนเองผ่านช่องการเรียนออนไลน์ 3) e – Visiting พัฒนาระบบจากการเยี่ยมปกติเป็นการเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ 4) e – Service สร้างระบบสนับสนุนข้อมูลการเกษตรและข้อมูลวิชาการผ่านช่องทางออนไลน์ 5) e – Trading พัฒนาช่องทางการจำหน่ายสินค้าเกษตรผ่านช่องทางออนไลน์ 6) e – News สร้างช่องทางการประชาสัมพันธ์ข่าวสาร และกิจกรรมในรูปแบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ผ่านช่องทางออนไลน์ 7) e – Supervision ปรับเปลี่ยนรูปแบบการนิเทศงานเป็นแบบออนไลน์ 8) e – Plan พัฒนาข้อมูลพื้นที่ คน สินค้า ให้มีความถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นปัจจุบัน เพื่อใช้วิเคราะห์ข้อมูลประกอบการจัดทำแผนพัฒนาการเกษตรประจำตำบล และจัดเก็บในรูปแบบไฟล์ดิจิทัลบนเว็บไซต์ และ 9) Webinar & Web Conference ปรับเปลี่ยนรูปแบบการประชุมสัมมนาจากแบบการเผชิญหน้าเป็นรูปแบบออนไลน์ โดยได้กำหนดเป้าหมายของการขับเคลื่อนงานตามระบบส่งเสริมการเกษตร Isan e – Extension ไว้ 3 ประการ คือ 1) ลดค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ 2) การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และ 3) มีระบบการส่งเสริมการเกษตรที่ทันสมัย ทำให้เกษตรกรได้รับบริการที่ดีและเกิดความพึงพอใจมากขึ้น ซึ่งได้จัดกิจกรรม Kick off ไป เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา