กรมส่งเสริมการเกษตร แนะวิธีป้องกันกำจัด “เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง”

            นายเข้มแข็ง  ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า เนื่องจากสภาพอากาศในฤดูแล้ง เหมาะกับการแพร่กระจายของศัตรูพืชหลายชนิด ซึ่ง เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง ก็เป็นหนึ่งในศัตรูสำคัญที่สร้างความเสียหายในมันสำปะหลังทุกระยะการเจริญเติบโต โดยจะดูดกินน้ำเลี้ยงตามส่วนต่าง ๆ เช่น ใบ ยอด ตา และถ่ายมูลเหลวข้นเหนียวรสหวาน ทำให้เกิดราดำปกคลุม ส่งผลให้ลำต้นบิดเบี้ยวมีช่วงข้อถี่ ใบหยิกงอเป็นพุ่มกระจุกหนา กระทบต่อการสังเคราะห์แสง ทำให้ขนาดหัวมันสำปะหลังเล็กลง และเปอร์เซ็นต์แป้งต่ำ หากมีการเข้าทำลายในมันสำปะหลังอายุน้อย หรือแพร่กระจายจำนวนมากอาจทำให้มันสำปะหลังไม่สามารถสร้างหัวและยืนต้นตายได้ ปัจจุบันพบเพลี้ยแป้ง 4 ชนิดสำคัญ ได้แก่ เพลี้ยแป้งลาย เพลี้ยแป้งแจ๊คเบียดเลย์ เพลี้ยแป้งมันสำปะหลังสีเขียว และเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังสีชมพู เมื่อเข้าสู่แปลงปลูกในระยะตัวอ่อนสามารถเคลื่อนที่ไปตามส่วนต่าง ๆ ของมันสำปะหลังได้โดยมีลมและมดเป็นพาหะให้แพร่กระจายไปสู่มันสำปะหลังต้นอื่นในแปลงปลูกได้ เกษตรกรจึงควรเลือกท่อนพันธุ์ที่สะอาด ปลอดโรคและศัตรูพืช รวมทั้งหมั่นสำรวจแปลงเพาะปลูกอยู่เสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ศัตรูพืชแพร่กระจายจนสร้างผลกระทบตามมาได้

            อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า วิธีการป้องกันกำจัดเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง สามารถทำได้ตั้งแต่ก่อนเริ่มเพาะปลูกโดยไถและพรวนดินหลาย ๆ ครั้ง เพื่อลดปริมาณของเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังที่อยู่ในดิน จากนั้นใช้ท่อนพันธุ์ที่สะอาด ปราศจากโรคและศัตรูพืช โดยควรแช่ท่อนพันธุ์ 5 – 10 นาที ก่อนนำไปปลูก ด้วยสารกำจัดแมลง ได้แก่ ไทอะมิโทแซม 25% WG อัตรา 4 กรัม หรืออิมิดาโคลพริด 70% WG อัตรา 4 กรัม หรือไดโนทีฟูแรน 10% WP อัตรา 40 กรัม โดยเลือกสารชนิดใดชนิดหนึ่งผสมน้ำ 20 ลิตร และนำไปแช่ท่อนพันธุ์มันสำปะหลังที่จะปลูก นอกจากนี้เกษตรกรควรอนุรักษ์ศัตรูธรรมชาติ ได้แก่ แมลงช้างปีกใส แตนเบียนเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังสีชมพู ด้วงเต่าตัวห้ำ ผีเสื้อหางติ่งตัวห้ำ และแตนเบียนชนิดอื่น ๆ โดยงดพ่นสารเคมีป้องกันกำจัดแมลงในช่วงที่พบแมลงศัตรูธรรมชาติบนต้นมันสำปะหลัง หรือช่วงหลังจากการปล่อยศัตรูธรรมชาติใหม่ ๆ รวมทั้งควรหมั่นสำรวจแปลงปลูก หากพบการเข้าทำลายของเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังให้ตัดยอดหรือถอนต้นไปทำลายนอกแปลงและพ่นสารกำจัดแมลง ได้แก่ ไวต์ออยล์ 67% EC อัตรา 50 มิลลิลิตร หรือโคลไทอะนิดิน 16% SG อัตรา 10 กรัม หรือสารกำจัดแมลงเดียวกันกับที่แช่ท่อนพันธุ์ โดยเลือกสารชนิดใด ชนิดหนึ่งผสมน้ำ 20 ลิตร พ่นบริเวณที่พบเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังและบริเวณโดยรอบทันที ทั้งนี้ หากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้าน

*************************

กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ : นาฏสรวง ข่าว / มีนาคม 2566

ข้อมูล: กองส่งเสริมการอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ย กรมส่งเสริมการเกษตร