กรมส่งเสริมการเกษตรชวนซื้อลิ้นจี่นครพนมสินค้า GI หนึ่งเดียวในโลก

นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า จังหวัดนครพนมเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีความเหมาะสมในการปลูกลิ้นจี่มีเกษตรกรรวมตัวกันเป็นกลุ่มแปลงใหญ่ลิ้นจี่พันธุ์นพ.1 ในพื้นที่ตำบลขามเฒ่าอำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม เพื่อร่วมกันผลิตและจำหน่ายสร้างรายได้ให้กับครอบครัว โดยลิ้นจี่พันธุ์นพ.1 มีลักษณะพิเศษ เพราะต้องการอากาศหนาวเย็นเพื่อกระตุ้นการออกดอก ผลขนาดใหญ่ ประมาณ 32-36 ผลต่อกิโลกรัม รสชาติหวานอมเปรี้ยว ไม่มีรสฝาด เนื้อหนาประมาณ 0.98 เซนติเมตร ความหวานอยู่ระหว่าง 18 – 20 องศาบริกซ์ และเมื่อต้นลิ้นจี่มีอายุ 8 -10 ปี จะสามารถให้ผลผลิตได้ถึง 65 – 180 กิโลกรัมต่อต้น

สำหรับผลผลิตของลิ้นจี่พันธุ์นพ.1 ในพื้นที่จังหวัดนครพนมปีนี้มีผลผลิตมากกว่าปีที่ผ่านมา เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค โดยเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้วตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายนเป็นต้นมาและคาดการณ์ว่าผลผลิตจะยังมีจำหน่ายไปจนถึงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ สำหรับพื้นที่ปลูกส่วนใหญ่จะอยู่ที่บ้านขามเฒ่า และบ้านนาโดน ตำบลขามเฒ่า อำเภอเมืองนครพนม รวมจำนวน 2,698 ไร่ ถือเป็นพื้นที่หลักในการปลูก และลิ้นจี่พันธุ์ นพ.1 ถือว่าเป็นสินค้าเกษตร GI ตัวแรกของจังหวัดนครพนม ที่ได้รับเครื่องหมายจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็นมาตรฐานสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา สร้างความภาคภูมิใจให้กับเกษตรกรที่ปลูกลิ้นจี่จำนวนมาก

“ลิ้นจี่พันธุ์นพ.1 มีลักษณะพิเศษและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์จนได้มาตรฐาน GI หนึ่งเดียวในโลก เป็นที่นิยมของผู้บริโภค หากใครได้มาเที่ยวจังหวัดนครพนมในช่วงนี้ จึงไม่ควรพลาดที่จะซื้อและแวะชิม โดยเกษตรกรจำหน่ายทั้งทางออนไลน์และหน้าสวน ในราคา 80 – 100 บาทต่อกิโลกรัมในระดับคุณภาพเกรดA และมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมากในช่วงนี้ ทำให้เกษตรกรผุ้ปลูกลิ้นจี่พันธุ์นพ.1 มีรายได้จากการขายผลผลิตเพิ่มมากขึ้น”รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าว

ด้านนางรัศมี อุทาวงษ์ ประธานกลุ่มแปลงใหญ่ลิ้นจี่ นพ.1 ตำบลขามเฒ่า อำเภอเมืองนครพนม กล่าวว่า ช่วงนี้ลิ้นพันธุ์นพ.1 กำลังให้ผลผลิตจำนวนมาก นักท่องเที่ยวหรือประชาชนทั่วไปสามารถซื้อหามาชิมได้ ทั้งหน้าสวน และจุดสำคัญต่าง ๆ เช่น ที่ลานพญานาค ริมแม่น้ำโขง หรือตลาดทั่วไป หรือตามริมถนนสายต่าง ๆเช่น ริมถนนสายขามเฒ่า-นาโดน และริมถนนทางไปวัดพระธาตุพนม โดยรับประกันความอร่อย มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว ผลใหญ่ เนื้อแห้งไม่แฉะ หากได้ชิมจะติดใจ โดยเกรดคุณภาพ ขายอยู่ที่ 80 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนเกรดรอง ๆ ลงมา ขายที่ 40-50 บาทต่อกิโลกรัม นอกจากนี้หากประชาชนสนใจสั่งซื้อต้นพันธุ์ไปปลูกทางเราก็มีขาย เริ่มตั้งแต่ต้นละ 50 บาทขึ้นไปอยู่ที่ขนาดของต้นพันธุ์

“ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตร ได้เข้ามาให้ความรู้ และแนะนำด้านการปลูก การดูแลรักษา เช่น การปรับแต่งกิ่ง การกำจัดศัตรูหรือแมลง ทำให้เกษตรกรมีลิ้นจี่คุณภาพขายให้ลูกค้า ส่วนด้านการตลาดทางกระทรวงพาณิชย์เข้ามาช่วย และส่งเสริมด้านการขาย ทำให้เกษตรกรมีรายได้จากการขายลิ้นจี่เพิ่มมากขึ้นในช่วงนี้” นางรัศมี กล่าว