เกษตรเขต 5 สงขลา เผยรายชื่อแม่ดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2567 ประเภทแม่ผู้เป็นเกษตรกร

นายวุฒิศักดิ์ เพชรมีศรี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา กล่าวว่า ตามที่สมาคมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัดงานวันแม่แห่งชาติครั้งแรก เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2519 โดยถือวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นวันแม่แห่งชาติ และได้ถือเป็นนโยบายการจัดงานวันแม่แห่งชาติเป็นประจำทุกปีติดต่อกันตลอดมา นับจนถึงปี 2567 เป็นเวลา 49 ปีมาแล้ว วัตถุประสงค์ของการจัดงานวันแม่แห่งชาติ เพื่อเทิดทูนและเผยแพร่พระเกียรติคุณสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงเป็นแม่ของแผ่นดิน และเพื่อเผยแพร่พระคุณและบทบาทของแม่ที่มีต่อครอบครัว สังคม และประเทศชาติ และเพื่อยกย่องแม่ดีเด่นแห่งชาติและลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ กิจกรรมที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งในการจัดงานวันแม่แห่งชาติ คือ การคัดเลือกแม่ดีเด่นแห่งชาติทั่วประเทศ เพื่อยกย่องและเผยแพร่เกียรติคุณผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นแม่ดีเด่นแห่งชาติทั้งในส่วนกลาง และในส่วนภูมิภาค เพื่อเป็นแบบฉบับที่ดีให้ปรากฏแก่สาธารณชน และเพื่อให้สังคมได้ตระหนักถึงบทบาทและหน้าที่อันสำคัญยิ่งของสตรีผู้ที่เป็นแม่ ซึ่งการประกวดแม่ดีเด่นแห่งชาติ แบ่งเป็น 6 ประเภท คือ 1. แม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม 2. แม่ผู้มีความมานะอดทนขยันหมั่นเพียร 3. แม่ของลูกผู้ทำประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ 4. แม่ผู้เป็นเกษตรกร 5. แม่ของลูกผู้เสียสละ และ 6. แม่ผู้เป็นอาสาสมัครและแม่ของลูกที่เป็นอาสาสมัคร


ในส่วนของกรมส่งเสริมการเกษตร รับผิดชอบในส่วนของการคัดเลือกแม่ดีเด่นแห่งชาติ ประเภทแม่ผู้เป็นเกษตรกร โดยพิจารณาคัดเลือกจากแม่ที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีความขยันหมั่นเพียรในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมจนเป็นที่ยอมรับ มีความซื่อสัตย์สุจริต อบรมเลี้ยงดูลูกด้วยความรักความเอาใจใส่ ด้วยความมานะอดทน ทำให้ลูกได้รับการศึกษา มีอาชีพที่สุจริต มีความประพฤติดี และเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม โดยได้ดำเนินการพิจารณาคัดเลือกให้ได้รับรางวัลจำนวน 15 คน และได้เข้ารับพระราชทานรางวัลแม่ดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2567 จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อวันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ในส่วนของผู้ได้รับรางวัลจากภาคใต้จำนวน 3 ท่าน ได้แก่

  1. นางนงเยาว์ พรหมประทีป อายุ 62 ปี จากจังหวัดชุมพร ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ที่ 17 ตําบลนาพญา อําเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่หลากหลาย ประกอบด้วย การปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ และประมง สร้างรายได้ให้กับครอบครัว และขยายผลสู่เกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียง เป็นแหล่งเรียนรู้ดูงานของผู้ที่สนใจ โดยเป็นแปลงเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ก่อให้เกิดความมั่นคงด้านอาหารในครัวเรือนและชุมชน และยังเป็นวิทยากรให้ความรู้ด้านการเกษตรและบ้านเกษตรสมบูรณ์ จนได้รับคัดเลือกให้เป็นบ้านเกษตรสมบูรณ์ต้นแบบระดับจังหวัด และเป็นแกนนำในการรวมกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร ทำกิจกรรมหลากหลายเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตร เป็นกลุ่มที่มีความเข้มแข็ง จนได้รับรางวัลรองชนะเลิศ กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรดีเด่นระดับจังหวัด ประจำปี 2567 ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 บ้านเกษตรสมบูรณ์ดีเด่นระดับจังหวัดในปี 2566
  1. นางศรีสุดา มากชูชิต อายุ 60 ปี จังหวัดระนอง ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ที่ 2 ตำบลท่าหิน อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ประกอบอาชีพเกษตรกรรมโดยการทำนาเป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีการทำการเกษตรที่หลากหลาย ทั้งปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ เพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัว ในด้านกิจกรรมสาธารณประโยชน์ เป็นวิทยากรให้ความรู้ในด้านการเกษตรและการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร รวมกลุ่มเกษตรกรเป็นกลุ่มต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุนการผลิต การเพิ่มผลผลิต การพัฒนาคุณภาพ เพื่อสร้างความยั่งยืนในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ส่งผลให้เกิดความมั่นคงด้านอาหารในครัวเรือนและชุมชน ตลอดจนเป็นแหล่งเรียนรู้ดูงานของเกษตรกรและผู้ที่สนใจ นอกจากนี้ยังได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งต่าง ๆ เช่น 1.) อาสามสัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) 2.) คณะกรรมการศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล (ศบกต.) 3.) คณะกรรมการตรวจสอบการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี 4.) คณะกรรมการตรวจสอบการแจ้งความเสียหายด้านพืช กรณีประสบภัยธรรมชาติ 5.) ประธานศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน (ศดปช.) ตำบลท่าหิน 6.) เกษตรกรต้นแบบ ศพก. เครือข่ายด้านดินปุ๋ย 7.) รองประธานกลุ่มแปลงใหญ่ข้าวท่า 8.) คณะกรรมการศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน (ศจช.) ตำบลท่าหิน 9.) คณะกรรมการศูนย์ข้าวชุมชน
  1. นางอทัยรัตน์ สมผลึก อายุ 62 ปี จังหวัดสงขลา ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 56 หมู่ที่ 10 ตำบลลำนาว อำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก มีการทำการเกษตรที่หลากหลาย ประกอบด้วยการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ และประมง สามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัว ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพจนได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP ด้านประมง ดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง บำเพ็ญประโยชน์และช่วยเหลือสังคมอย่างสม่ำเสมอ ส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มในชุมชน สร้างโอกาส สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่สมาชิกในชุมชน เพื่อให้เกิดการร่วมกันพัฒนาและแก้ไขปัญหาด้านต่าง ๆ ของชุมชน ทำให้ชุมชนเข้มแข็ง สามัคคี และพึ่งพาตนเองได้ เป็นวิทยากรให้ความรู้ในด้านการเกษตร และการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เป็นแหล่งเรียนรู้ดูงานของผู้ที่สนใจ รวมกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรทำกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตร จนได้รับรางวัลชนะเลิศ กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรดีเด่นระดับเขต ประจำปี พ.ศ. 2567 อนุรักษ์พันธุกรรมพืชหายาก “ชกพันธุ์ขี้หนู” เพื่อส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากชก และผลักดันให้บ้านควนชก ได้เป็น “หมู่บ้านนวัตกรรมจากต้นชกแบบครบวงจร”