นายนวนิตย์ พลเคน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฏราชกุมาร เป็นรูปแบบหนึ่งของการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรให้กับเกษตรกร พร้อมกับถ่ายทอดองค์ความรู้ไปในคราวเดียวกัน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรที่จะได้รับการบริการแบบครบวงจรในทุก ๆ ด้าน โดยเป็นการนำบุคลกร อุปกรณ์ เครื่องมือ และองค์ความรู้ด้านการเกษตรมาให้บริการแก่พี่น้องเกษตรกรถึงในพื้นที่ แต่เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ที่ทวีความรุนแรงอยู่นั้น กรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้ปรับแนวทางการดำเนินงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ ฯ ให้สอดคล้องบริบทของสังคม โดยดำเนินการจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และตั้งจุดให้บริการโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ ฯ ณ สำนักงานเกษตรจังหวัด/สำนักงานเกษตรอำเภอ โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำจุดให้บริการให้คำแนะนำ บริการเอกสารวิชาการ สนับสนุนปัจจัยการผลิต เช่น พันธุ์พืช ทั้งเมล็ดพันธุ์ และต้นกล้า หรือวัสดุการเกษตรอื่นๆ รวมทั้งจัดทีมเจ้าหน้าที่ออกให้บริการถึงพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชน และเน้นการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ของแต่ละจังหวัดอย่างเคร่งครัด
ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2564 รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรได้เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ ฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ณ สำนักงานเกษตรพื้นที่กรุงเทพมหานคร แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ซึ่งทางสำนักงานเกษตรพื้นที่กรุงเทพมหานครได้จัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และตั้งจุดให้บริการโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ ฯ เพื่อแจกจ่ายต้นกล้า อาทิ กระชาย ฟ้าทะลายโจร และเมล็ดพันธุ์ผัก ตลอดจนสารเร่ง พด. ให้บริการในวันและเวลาราชการอย่างต่อเนื่อง พบว่านับตั้งแต่เริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564 จนถึงปัจจุบันมีผู้มารับบริการแล้วจำนวนกว่า 400 ราย
ทั้งนี้ โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ ฯ สามารถทำให้การให้บริการทางวิชาการและการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการเกษตรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์บรรลุผลสำเร็จตามภารกิจที่รับผิดชอบ โดยเป็นการปฏิบัติงานเชิงรุกที่ทำให้เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายที่มีปัญหา ได้รับบริการทางการเกษตรอย่างรวดเร็ว ทั่วถึงและครบถ้วน เช่น การวิเคราะห์ดิน การวินิจฉัย โรคพืช โรคสัตว์ โรคสัตว์น้ำ และการให้วัคซีนป้องกันโรค รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีและฝึกอบรมความรู้การเกษตรเสริมเพิ่มเติมควบคู่กันไปด้วย ซึ่งเป็นการดำเนินการในลักษณะบูรณาการการทำงานระหว่างนักวิชาการเกษตรของหน่วยงานต่าง ๆ ในแต่ละสาขา ทั้งด้านพืช สัตว์ ประมง ดิน และน้ำ ฯลฯ พร้อมนำอุปกรณ์และเครื่องมือทางวิชาการด้านต่าง ๆ มาให้บริการในคลินิกเกษตร เพื่อให้เกษตรกรสามารถเข้ารับบริการทางการเกษตรได้อย่างถูกต้องครบถ้วนทุกด้านในคราวเดียวกัน โดยมีการดำเนินการในพื้นที่ 77 จังหวัดทั่วประเทศ
**********************
พีรมณฑ์, กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ : ข่าว
กองส่งเสริมโครงการพระราชดําริการจัดการพื้นที่และวิศวกรรมเกษตร: ข้อมูล กันยายน 2564